Last updated: 30 ส.ค. 2565 | 355 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคกรดไหลย้อน ห้ามกินอะไร
อาหารต้องห้ามสำหรับคนที่เป็น โรคกรดไหลย้อน ส่วนใหญ่มักเป็นอาหารย่อยยาก อาหารที่กระตุ้นการหลั่งกรด และ อาหารรสจัด ที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
วันนี้ HASHI-GRD จะมาอธิบายถึงอาหารชนิดต่างๆ สำหรับผู้ที่มีอาการ กรดไหลย้อน ในตอนนี้ควรเลี่ยง และ งดก่อนในช่วงการรักษาเพื่อป้องกันอาการกำเริบขึ้นมามากขึ้น จนทำให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ตามมาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
9 อาหารต้องห้าม สำหรับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน
ของทอดของมัน อาหารแปรรูป
ของทอดของมันและอาหารแปรรูปต่างๆ เช่น ไส้กรอก แหนม จะทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวช้าลง เนื่องจากอาหารไขมันสูง เป็นอาหารที่ใช้เวลาย่อยนานกว่าอาหารประเภทอื่นๆ จึงต้องค้างอยู่ในกระเพาะนานขึ้น กรดในกระเพาะอาหาร ต้องหลั่งออกมามากขึ้นต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดอาการ จุกเสียดแน่นท้อง แน่นอก และดันอาหารจากกระเพาะขึ้นมาได้
แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ มีฤทธิ์กระตุ้นหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายให้คลายตัว และเปิดออกนานขึ้น ทำให้กรดต่างๆ ในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมา จนเกิดอาการแสบร้อนกลางอกมากขึ้น รวมถึงหากมีการดื่มโซดา น้ำอัดลมร่วมกับแอลกอฮอล์ด้วย จะเกิดอาการแน่นอกแน่นท้องขึ้นมา เพราะยิ่งเป็นการเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหารอีกด้วย
คาเฟอีน
เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม คาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนปลายคลายตัว กระตุ้นอาการแสบร้อนกลางอกได้เร็ว และหากดื่มช่วงท้องว่างเป็นประจำอาจเกิด แผลในกระพาะอาหาร ตามมาได้ค่ะ
ของหมักดอง
เช่น ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม ปลาร้า หน่อไม้ดอง กิมจิ น้ำส้มสายชู จะมีรสชาติเปรี้ยวเป็นหลัก จากจุลินทรีย์ ที่ผ่านกระบวนการหมักดองมา และเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร จัดเป็นอาหารย่อยยาก เกิดอาการแน่นท้อง เรอเปรี้ยวมากขึ้น จากอาหารเหล่านี้ได้
อาหารรสจัด
สำหรับรสเปรี้ยวจัด และเผ็ดจัด จะกระตุ้นการหลั่งกรดออกมามากขึ้น และเกิดอาการระคายเคืองทางเดินอาหาร อาการแสบร้อนที่แต่เดิมมีอยู่แล้ว จะถูกกระตุ้นให้แสบร้อนกลางอก แสบร้อนลำคอมากขึ้น เลือดลมไหลเวียนผิดปกติ และเกิดอาการเรอ หรือผายลมมากผิดปกติตามมาได้ ดังนั้นอาหารรสจัดทั้งเปรี้ยวและเผ็ด เช่น ยำ ต้มยำ แกงเผ็ดต่างๆ จัดเป็นอาหารที่ควรงดก่อนในช่วงที่มีอาการนะคะ
ช็อคโกแลต
มีส่วนผสมของโกโก้ ที่กระตุ้นการหลั่ง สารซีโรโทนิน ออกมามากขึ้น มีผลทำให้หูรูดหลอดอาหารคลายตัว รวมถึงช็อคโกแลตมีส่วนประกอบของคาเฟอีน ยิ่งเข้มข้นมาก สารคาเฟอีนยิ่งมากตามไปด้วย แต่ถ้าเข้มข้นน้อย ส่วนใหญ่มักจะใส่ส่วนผสมเป็นนม เนยอื่นๆเพิ่ม ซึ่งจัดเป็นส่วนประกอบไขมันสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผู้ที่มีอาการ กรดไหลย้อน ควรงดทั้งสิ้น
ผักดิบ และผักกลิ่นฉุน
เช่น หอมหัวใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย หอมแดง โหระพา หรือสะระแหน่ รวมทั้งผักดิบทุกชนิด เพราะผักเหล่านี้มีกลิ่นฉุน ผักดิบย่อยยาก เป็นตัวกระตุ้นหลักที่ทำให้เกิดกรด แก๊สในกระเพาะอาหาร สังเกตได้จากหลังทานผักเหล่านี้จะมีอาการเรอออกมาเป็นกลิ่นนั้นๆ หรือกลิ่นฉุนเหล่านี้จะตกค้างอยู่ กระเพาะอาหาร นานกว่าชนิดอื่นๆ จึงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยวมากขึ้นได้
ผลไม้รสเปรี้ยว มีกรดมาก
เช่น ส้ม มะนาว มะเขือเทศ สัปปะรด เสาวรส มะม่วงเบา มะยม มะเฟือง ตะลิงปลิง ผลไม้เหล่านี้มีความเปรี้ยวจัด และมีกรดสูง เมื่อทานเข้าไปจะไปกระตุ้นกรดในกระเพาะให้หลั่งมากขึ้น ระคายเคืองกระเพาะ และแสบร้อนตามมาได้
เนย นม ชีส
อาหาร หรือ เครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของนมวัว เนย และชีส มักกระตุ้นให้เกิดอาการท้องอืดได้ง่าย จัดเป็นอาหารกระตุ้นการหลั่งกรดและอาหารย่อยยากชนิดหนึ่ง และปริมาณไขมันค่อนข้างสูง หากเลี่ยงหรือปรับเป็นนมไขมันต่ำ หรือนมจากพืช เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ อาจเหมาะสมกว่าในบางราย ทั้งนี้ต้องสังเกตด้วยว่าเราดื่มนมประเภทไหนแล้วรู้สึกสบายท้อง ไม่มีอาการแพ้ เลือกดื่มนมประเภทนั้นได้เลย
หากปรับการทานอาหารได้ ก็ถือว่าอาการของ กรดไหลย้อน หายไปมากกว่า 50% แล้ว เพราะชนิดอาหารที่ทานในแต่ละมื้อสำคัญมากกับ โรคกรดไหลย้อน หากเลี่ยงอาหารแสลง ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน น้ำเต้าหู้ ผลไม้รสกลางๆเช่น แคนตาลูป แอปปเปิ้ล ผักใบเขียว ไขมันดีจากน้ำมันมะกอก อะโวคาโด น้ำมันงา ร่วมกับการทานยารักษาต่อเนื่อง และปรับพฤติกรรมตามที่หมอแนะนำ อาการกรดไหลย้อน หายสนิท หายขาดได้แน่นอนค่ะ เพราะหมออยากให้ทุกคนหายจาก กรดไหลย้อน และมีสุขภาพที่แข็งแรง เรามาเลี่ยงอาหารแสลงและมาลองปรับพฤติกรรมไปด้วยกันกับ HASHI GRD นะ
HASHI-GRD นวัตกรรมใหม่ของ GRD เพื่อการบำบัดรักษา โรคกรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหาร อาการจุกแน่น ท้องอืดโดยไม่ใช้ยา